forexเทคนิคการเทรด โดยทั่วไปในตลาด FOREX จะมีหนทางในการทำกำไรอย่างมากมายโดยอาศัยปัจจัยในการดำเนินไปหลายอย่าง บทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะเทคนิคของอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในกราฟราคาโดยเอาเทคนิคอินดิเคเตอร์พื้นฐานมาประยุกต์อีกขั้นหนึ่ง อยากให้เทรดเดอร์นำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้เพิ่มเติม ซึ่งในท้ายที่สุดมันจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเทรดเดอร์เองในระยะยาว
เทคนิคการเทรด แบบ DOUBLE เพื่อเพิ่มพอร์ตของคุณเป็นสองเท่านี้ เป็นระบบการเทรดที่มีศักยภาพมากและเป็นเรื่องจริงที่จะเพิ่มพอร์ตของคุณให้เป็นสองเท่าได้ คุณอาจเคยได้ยินหรือเคยอ่านผ่านตามาในเรื่องของการมีพอร์ต A พอร์ต B หรือแม้แต่มีพอร์ต C เพื่อแยกความเสี่ยงในการเทรดของคุณและทุกๆ เรื่องราวที่คุณเคยได้ยินมา ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ระยะเวลาในการทำการทั้งสิ้น แน่นอนว่าเทคนิคนี้ก็เช่นกัน เพราะเทคนิคนี้อาจใช้เวลาสองสามวันต่อสัปดาห์หรือสองสามเดือนในการทำเช่นนั้น กรอบเวลาที่ใช้ในการทำสิ่งนั้นไม่เกี่ยวข้องและไม่สำคัญจริงๆ สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้คือทำอย่างไร มากกว่า
เทคนิคการเทรดแบบ DOUBLE ที่จะแนะนำนี้ คุณสามารถทำการเทรดได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับพอรต์การเทรดของคุณมากเกินไป เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้นหรือมีความเป็นไปได้มากที่สุด คุณต้องมีสองสิ่งที่เฉพาะเจาะจงที่จะทำให้การเทรดนี้เกิดขึ้นได้ คือ :
- ตลาดมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งมาก (STRONG TREND)
- ทำการเทรดหลายครั้งในช่วงแนวโน้มนั้น
คุณจะต้องเผชิญหน้ากับเวลาที่ตลาดมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งและคุณอาจเข้ามาทำการเทรดในเวลาที่เหมาะสมและคุณอาจทำกำไรได้สองสามร้อย PIPS ยอดเยี่ยมมาก ใช่! คุณอาจคิดเช่นนั้น แต่โอกาสที่หลายร้อย PIPS นั้นจะทำกำไรให้คุณในการเทรดนั้น มาจากการเทรดเพียงครั้งเดียว! ตัวอย่างจะคล้ายกับแผนภูมิด้านล่างซึ่งคุณป้อนการเทรดเพียงครั้งเดียวและคุณสร้างกำไรเพียง 3,320 PIPS แต่ในทางกลับกันคุณสามารถทำกำไรได้หลายพัน PIPS ในการย้ายแนวโน้มเดียวกันนั้นแทนที่คุณจะได้ 3,320 PIPS
วิธีที่คุณทำคือการเพิ่มการเทรดมากขึ้น (ทำการเทรดหลายคำสั่ง) และถ้าคุณทำเช่นนั้น เท่ากับว่าคุณกำลังทำการซื้อขายหลายอย่างตลอดทาง ดังนั้นในตอนนี้คุณจะเห็นได้ว่าการใช้การซื้อขายหลายครั้งสามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้อย่างมากและทำให้บัญชีซื้อขายของคุณเป็นสองเท่า
เมื่อเทรดเดอร์ดูภาพตัวอย่างอาจรู้สึกถึงความง่ายในการเข้าเทรด แต่สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องมีในกราฟราคานี้ดังต่อไปนี้ :
- อินดิเคเตอร์ : เส้นค่าเฉลี่ยราคาเคลื่อนที่ SIMPLE MOVING AVERAGE (SMA34)
- กรอบเวลา : ทุกกรอบเวลา แนะนำที่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป
- คู่สกุลเงิน : ทุกคู่สกุลเงิน
- จุดประสงค์เดียวของอินดิเคเตอร์ SMA 34
ใช้เพื่อบอกทิศทางแนวโน้ม
- หากกราฟแท่งเทียนปิดต่ำกว่าเส้น SMA 34 ให้ถือว่าเป็นงานฝั่งขาลง ดังนั้นคุณจึงมองหาการเทรด SELL เท่านั้น
- หากกราฟแท่งเทียนปิดเหนือเส้น SMA 34 แน่นอนว่าเป็นเรื่องราวของฝั่งตรงกันข้ามคุณจึงควรมองหาโอกาสในการ BUY เท่านั้น
- การเทรด SELL จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีกราฟแท่งเทียนรูปแบบตลาดกระทิงเกิดขึ้นที่แนวโน้มฝั่งขาลง
- การเทรด BUY ก็เช่นกันว่าจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีกราฟรูปแบบตลาดหมีเกิดขึ้นในขณะที่มีแนวโน้มเป็นตลาดฝั่งขาขึ้น
เงื่อนไขในการ เข้าเทรด SELL
- ให้เทรดเดอร์รอให้แนวโน้มเป็นขาลงก่อน แล้วรอให้กราฟแท่งเทียนปิดต่ำกว่าค่าเส้น SMA 34
- สัญญาณการการเทรด SELL ครั้งแรกของคุณ (สัญญาณการเริ่มต้นเทรด SELL) คือแท่งเทียน (สีเขียว) แท่งเทียนกระทิงซึ่งอยู่ใต้เส้น SMA 34 และทำตำแหน่งสูงขึ้น (HIGHER HIGH) ซึ่งหมายความว่าจะต้อง BREAKOUT ตำแหน่งสวิงสูงสุดก่อนหน้า
- ทันทีที่กราฟแท่งเทียนปิด ให้คุณเข้าเทรดคำสั่ง SELL ทันที
- วาง STOP LOSS สำหรับการเทรดครั้งแรกของคุณเพียงไม่กี่ PIPS ที่ตำแหน่งสวิงสูงสุดก่อนหน้า (ซึ่งเป็นระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุด)
- แต่สำหรับการเทรด SELL คำสั่งต่อๆ มา คุณจะไม่ต้องมี STOP LOSS
- การออกจากการเทรดหรือเป้าหมายการทำกำไรคือ เมื่อคุณเห็นกราฟแท่งเทียนปิดเหนือระดับเส้น SMA 34
ต่อมาคือเงื่อนไขในการ เข้าเทรด BUY แน่นอนว่ามันจะตรงกันข้ามกับเงื่อนไขการเทรด SELL
- ให้รอให้แนวโน้มเป็นขาขึ้นและให้กราฟแท่งเทียนปิดเหนือกว่าค่าเส้น SMA 34
- สัญญาณการการเทรด BUY ครั้งแรกของคุณ คือแท่งเทียน (สีแดง) ซึ่งเป็นแท่งเทียนหมีที่จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหนือเส้น SMA 34 ที่ทำตำแหน่งต่ำลง (LOWER LOW) ซึ่งหมายความว่าจะต้อง BREAKOUT ตำแหน่งสวิงต่ำสุดก่อนหน้า ล่าสุด
- ทันทีที่กราฟแท่งเทียนแท่งนั้นปิด ให้คุณเปิดคำสั่งเทรด BUY ได้ในทันที
- วาง STOP LOSS ไว้ที่ใต้กราฟแท่งเทียน สวิงต่ำสุดล่าสุดที่ซึ่งเป็นระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุด ในการวาง STOP LOSS ครั้งแรกของการเทรด BUY
- ในการเทรด BUY ครั้งต่อไปไม่ต้องมี STOP LOSS แล้ว
- เป้าหมายในการทำกำไรจากการเทรดทั้งหมด คือเมื่อคุณเห็นกราฟแท่งเทียนปิดต่ำกว่าเส้น SMA 34
เพิ่มเติม IDEA การเทรด
เมื่อคุณทำการเทรดครั้งแรกคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตำแหน่งในการวาง STOP LOSS ที่คุณวางไว้ไม่ไกลเกินไปจากกราฟราคาที่สวิงสูงสุดหรือต่ำสุดที่ใกล้ที่สุดด้วย เพราะยิ่งใกล้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีสำหรับคุณเพราะในทันทีที่คุณเปิดคำสั่งเทรดเพิ่มคุณจะสามารถขยับ STOP LOSS ตามขึ้นไปเพื่อป้องกันกำไรได้
จะเป็นการดีเยี่ยมหากการเทรดเพิ่มเติมที่คุณได้ทำการเทรดเพิ่มนั้นสามารถ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเทรดครั้งแรกได้ทั้งหมด ให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจก่อนการเทรด ตัวอย่างเช่นคุณมีความเสี่ยง 2% ในพอร์ตของคุณเมื่อคุณเข้าสู่การเทรด BUY ในครั้งแรกและกราฟราคาขยับไป 100 PIPS
ดังนั้น STOP LOSS ของคุณจะอยู่ในจุดคุ้มทุนแล้ว และตอนนี้คุณไม่มีความเสี่ยง จากนั้นคุณจะเปิดการเทรดที่สองและการเทรดที่สามได้ โดยไม่ต้องมี STOP LOSS นั่นหมายความว่าตราบใดที่การเทรดทั้งสองนี้ กราฟราคาไม่ได้ย้อนกลับไปรวมเป็น 100 PIPS คุณยังคงมีความเสี่ยง 2% ของบัญชีของคุณ อยู่
โปรดจำไว้ว่าการเทรดในครั้งแรกของคุณมีจุดคุ้มทุนไปแล้ว ดังนั้นคุณใช้กำไรจากการเทรดครั้งแรกเป็น BUFFER สำหรับการเทรดที่ตามมาอีก ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเทรดเลย forexเทคนิคการเทรด